เตรียมลุย ถอนป่า

นี่แหละครับปัญหาใหญ่งานใหญ่สำหรับการปลูกหญ้าแบบผม คือที่มันจะว่างแล้วก็มีพืชที่เราไม่ต้องการขึ้นมานี่แหละครับ ดูแล้วมันกวนดีเหมือนกันนะครับ โตเอาโตเอา น้ำก็ไม่ได้รด สูงจะถึงเข่าอยู่แล้ว มีทางเดียวต้องถอนละครับ

นี่หละครับเครื่องทุ่นเรองที่จะช่วยให้ถอนวัชพืชได้ง่ายขึ้น ก็คือรดน้ำก่อนให้ดินมันนุ่มชุ่มชื้นก่อน ไม่งั้นถอนเท่าไหร่ก็ไม่ออกครับ กล้ามขึ้น ตะคริวขึ้นตายกันพอดี เดี๋ยวเย็นนี้จะลุยครับ ไม่รู้จะถอนได้มากน้อยแค่ไหนเหมือนกัน

ชาดัดเริ่มแตกกิ่ง

เห็นภาพนี้แล้วก็ใจชื้นขึ้นมาครับว่าชาดัดน่าจะโตเร็วเหมือนกัน รู้สึกได้ว่าปลูกมาเดือนกว่าๆเพิ่งจะมาเริ่มแตกกิ่งอย่างรวดเร็วก็ช่วงนี้เองครับ สงสัยว่ารากจะลงดินเรียบร้อยดีแล้ว

ตอนที่ชาดัดแตกกิ่งใหม่ ใบใหม่นี่เป็นภาพที่สวยที่สุดแล้วครับสำหรับต้นชาดัดเพราะมันบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของต้นมันเอง ความความพร้อมที่จะเติบโตแตกกิ่งแตกใบใหม่ๆ เขียวอ่อนๆให้เราได้ดู คิดดูครับว่ามันสวยแค่ไหนถ้าเป็นตอนที่มันเป็นรูปทรงแล้วแล้วก็มีใบเขียวเข้มเป็นแบคกราว มีใบอ่อนกับดอกเป็นโฟกราว นึกแล้วอยากให้มันโตเร็วๆจริงๆ

สภาพสวนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 54

สวัสดีครับ ต้องบอกว่าเริ่มเขียวขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ แต่สำหรับผมเองแล้วรู้สึกว่าช้ากว่าที่คิดครับ เรียกได้ว่าช้ากว่ามากเลยครับ สำหรับหญ้านวลน้อยห้วใจหลัก เเต่เมื่อมาลองนึกดูอีกทีแล้วก็น่าเห็นใจหญ้านวลน้อยเหมือนกันเพราะว่าผมเด็ดมาสักประมาณ ห้าหกกำมือเองแต่เติบโตและมีกอให้ผมเด็ดไปเพาะพันธ์เพิ่มแล้วก็ถือว่าเร็วแล้วหรือปล่าวนะ... สังเกตทางริมๆขวาหญ้าเกือบจะเต็มเป็นแผ่นแล้ว แต่ก็คงไม่เต็มเพราะว่าผมแซะเอาไปปักต่อเรื่อยๆครับ

รูปที่สองดูชาดัดที่ปลูกและเพาะไว้ก็โตช้าไม่แพ้กันเลยจริงๆครับ

มองจากมุมบน จะเห็นหญ้านวลน้อยเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม ช่างรำไรรำไรซะจริงๆ

ความเบื่อหน่าย ศัตรูพืชที่ไม่มีวันผิด

ฉี่รดสนามหญ้า..มันไม่รู้เรื่อง เดินเหยียบกิ่งชาดัดหัก..มันไม่ผิด กินหญ้าในสนามแล้วกลับมาอ้วกใส่ทางเดิน..มันไม่สบาย และอีกมากมายหลากหลายความรู้สึกถึงเทพองค์นี้ที่ไม่มีวันเป็นผู้ผิด

ภาพแรกเป็นชาดัดที่ปลูกไว้เพื่อกันมันนั่นแหละแต่ไม่ทันจะโตก็โดนเล่นก่อนเลยเรียกว่าจี๊ดสุดๆ

ภาพนี้เป็นหญ้าที่แห้งตายเพราะโดนฉี่เทพ อยากบอกว่ามัีนกวน สต.จี๊ดใจสุดๆจริงๆ ไม่มีอะไรจะเลวไปกว่านี้อีกแล้ว บางทีก็ฉี่ บางทีก็ขี้เลย แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู แต่ทำอะไรมันไม่ได้จริงๆเพราะไม่ใช่หมาผม

ขืนถ้าทำอะไรเดี๋ยวกระทบความสัมพันธ์กับข้างบ้านอีก เจ็บในใจ เคยนั่งดูนะลงทุนรอดูว่ามันมาเมื่อไหร่จะเอาหนังสติ๊กยิง แต่มันก็หลบมาตอนมืด ตอนที่เรานอนอีก ที่รู้ก็เพราะว่าตั้งสัญญาณเซนเซอร์กันขโมยเอาไว้เพราะว่าอยากดูว่ามันจะมาตอนกลางคืนจริงหรือปล่าวแล้วก็จริง มันกวนแค่ไหนคิดดู

ตื่นมาตอนเช้าแดดอ่อนๆตัดกับหญ้าเขียวสดมันสดชื่นจริงๆ แต่พอมองไปเจอขี้เต็มหน้า โอ้ย...รู้สึกเหมือนโดนขี้ป้ายหน้าอ้ะ.....

ชาดัดเป็นซะยังงั้น

หลังจากที่ผมทำการเพาะชาดัดมาอย่างตั้งใจ ใช้ดินผสมแกลบดำผสมทรายในถุงเพาะชำอย่างดีควบคุมปริมาณแสงแดดอย่างพอเหมาะจากสิบต้นเป็นสักหนึ่งต้น จนเป็นความสงสัยว่าโหเป็นยากกว่าที่คิดเยอะเลยชาดัดเนี่ย

สุดท้ายสิ้นหวังท้อแท้ ก็เลยตัดยอดชาดัดมาอย่างที่เห็นรูปแรกแล้วก็ไปปักๆในดินเปียกๆ ดู

ก่อนจะปักก็เด็ดใบออกซะหน่อย

ใช้ไม่เล็กๆทิ่มดินให้เป็นรู

ปักกิ่งที่เตรียมเอาไว้ลงไป

ผ่านไป 1อาทิตย์ เริ่มมีใบอ่อน

กิ่งอื่นๆที่ลองดูก็เป็นหมด 100 เปอร์เซ็นต์ซะอย่างนั้น

แล้วแบบนี้ทำไมไม่บอกซะตั้งแต่แรกว่าที่เราทำให้หนะมันดีเกินไปชอบแบบธรรมดาไม่ค่อยใส่ใจก็ไม่บอก เป็นซะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยเชียว

การทดลอง ชาดัดแช่น้ำ

สวัสดีครับวันนี้จะมาทดลองแช่ชาดัดในน้ำกัน ถามว่าแช่ทำไม ตอบได้ว่าผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะเป็น เหมือนอย่างที่แม่แช่ต้นสะระแหน่ โหระพา ปรากฏว่ามันเป็นแล้วก็เอาไปปักดินก็เติบโตดี นี่แหละครับก็เลยจะมาทดลองดูกับชาดัดบ้าง

รูปแรกนั้่นคือวันแรกที่แช่กิ่งชาดัดที่ตัดมาใหม่ๆครับ ขวดที่มีโลโก้อยู่คือขวดที่มีน้ำยาเร่งราก ส่วนอีกใบเป็นน้ำเปล่า

ผ่านไป 1 วัน เจ้าเหมียวถึงกับงงและคงคิดในใจว่า "ทำอะไรว้า...." ชาดัดยังคงเขียวสดดีเหมือนเดิม

การทดลองนี้ผมจะเปลี่ยนน้ำทุกเช้านะครับ เพราะสังเกตุที่แม่ผมแช่ต้นโหระพาไว้พอหลายวันน้ำจะเน่าและโหระพาที่แช่ไว้ก็จะตายไปด้วย ก็เลยเปลี่ยนน้ำทุกวันครับ

ถ้าใครมีความรู้เรื่่องการปลูกผักโดยไม่ใช้ดินก็คงจะรู้สึกว่ามันคล้ายๆกันนะครับ เพราะว่าการปลูกผักสวนครัวโดยไม่ใช้ดินนั้นก็อาศัยการไหลเวียนของน้ำให้ผ่านอากาศทำให้ในน้ำมีออกซิเจนตลอดเวลา น้ำไม่เสีย ต้นไม้ก็ได้ออกซิเจนด้วย ผมคิดเอาเองนะครับว่ามันคงจะเหมือนกัน

เวลาผ่านไป 5 วัน...

แก้วที่แช่ด้วยน้ำเปล่ายังสดเหมือนเดิม

ขวดที่แช่ด้วยน้ำยาเร่งรากก็เหมือนเดิม

รากก็ยังไม่งอก...ทังสองขวด

ผ่านมา 5 วันผลการทดลองถือว่ามีความเป็นไปได้ที่กิ่งชาดัดจะเป็นและมีราก เพราะกิ่งและใบยังสมบูรณ์มาก

ติดตามตอนต่อไป

ต้นไม้กับความเบื่อๆ

วันนี้รู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆครับ เพราะว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้มันไม่ค่อยจะโตแบบรวดเร็วทันใจเอาซะเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไปสนใจมันมากเกินไปหรือปล่าวมันก็เลยอาจจะทำให้เห็นว่ามันไม่ค่อยโต

เคยพยามคิดอย่างนั้นเหมือนกันครับว่าจริงๆแล้วต้นไม้โตเร็ว แต่เราเองที่อาจจะใจร้อนจนทำให้รู้สึกว่าต้นไม้ที่ปลูกไม่โตหรือโตช้า แต่สังเกตดูดีดีแล้วมันโตช้าจริงๆครับ

อะไรที่โตช้าบ้าง ผมสรุปออกมาได้ดังนี้เลยครับผม

1.หญ้านวลน้อย ขึ้นชื่อว่าเป็นหญ้าน่าจะโตเร็วเต็มเร็วแตกงอกเร็วตายยาก แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรโตช้าแตกหน่อช้าเหลือเกิน เดือนครึ่งแล้วยังได้หน่อยเดียวเอง

2.ชาดัด เรียกว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกมาที่โตช้าที่สุดตั้งแต่เคยปลูกต้นไม้มาในชีวิตเลยครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมพลาดตรงไหน แต่ตอนนี้เริ่มรู้อะไรมาบ้างแล้วจากการทดลองของตัวเอง แล้วจะมาสรุปให้ฟังในส่วนของชาดัดอีกทีนึงครับ

3.เทียนทอง เป็นต้นที่ไม่โตเลยก็ว่าได้ 1 เดือนครึ่งที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้มันเติบโตขึ้นเลยสักนิด อยู่ยังไงก็อยู่อย่างนั้น เคยลองขุดดูว่ามันแตกรากถึงไหนแล้วปรากฏว่ามันก็แตกรากเยอะ แต่ว่าทำไมไม่เห็นจะโตหรือแตกใบใหม่หรือสูงขึ้นให้เห็นเลย

สรุปสถานการณ์ตอนนี้เข้ามาเกือบครึ่งเดือนกุมภาพันธ์แล้ว หญ้านวลน้อยที่เป็นหัวใจของสวนยังเพาะได้ไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสี่ของสวนเลย เหลือเวลาอีกประมาณสี่เดือนก่อนน้ำจะมา ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหญ้าเต็มสนามทันหรือปล่าวเหมือนกัน...

ต้นไม้ที่โตเร็วที่สุด

ต้นบัวสวรรค์หรือว่าต้นคุณนายตื่นสายผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะเรียกหลายชื่อทำไมหรือว่ามัีนต่างกันอย่างไร แต่ผมเห็นว่ามันไม่ได้ต่างอะไรกันเลย จากภาพนี้เป็นต้นที่ผมเพาะเมื่อประมาณสัก 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้

ที่บอกว่ามันโตเร็วก็เพราะว่าเจ้าต้นนี้เราแค่ตัดลำต้นมันไปปักดิน สัก2-3 วันมันก็เป็นแล้ว สักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก็เห็นผลแบบที่เห็นในรูปละครับ ผมยังคิดเลยว่าถ้าหากหญ้านวลน้อยเป็นเร็วโตเร็วแบบนี้จะดีมากๆ

สิ่งที่ผมสังเกตได้จากต้นคุณนายตื่นสายนี้ก็คือเรื่องการเพาะ ผมคิดว่าที่มันเป็นง่ายคงเป็นเพราะว่าลำต้นของมันเก็บน้ำเอาไว้เยอะมากๆถ้าใครมีอยู่ที่บ้านลองเด็ดมาดูได้ครับลำต้นมันเต็มไปด้วยน้ำ และเพราะเหตุนี้เองผมเลยเชื่อว่ามันเลยเป็นต้นไม้ที่เพาะชำได้ง่ายที่สุด

ถ้ามาหันดูลำต้นของหญ้านวลน้อยดูบ้างจะเห็นว่าน้ำในลำต้นต้องน้อยกว่าแน่นอน สิ่งที่ผมคิดคือถ้าจะเพาะต้นอะไรสักอย่างโดยการเพาะชำ ถ้าหากอยากให้มันเป็นเร็ว หรือเปอร์เซ็นต์ในการติดสูง จึงต้องเลือกกิ่งของต้นไม้ที่จะใช้ในการเพาะชำที่มีความสมบูรณ์มากที่สุด

สมบูรณ์มากที่สุดในมุมมองของผมสรุปง่ายๆว่า เช่น ถ้าผมจะตัดกิ่งชาดัดไปปักชำสักกิ่ง ผมจะรดน้ำให้เยอะๆเลยของต้นนั้น เรียกว่าเลี้ยงน้ำให้อิ่มเลยแล้วก็ค่อยตัดกิ่งยอดไปเพาะ แล้วผมก็ทำแบบนี้จริงๆ ปรากฏผลออกมาที่ได้ตอนนี้ผมเพาะชาดัดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ไว้บทความหน้ามาดูชาดัดที่ผมเพาะนี้กันดูครับ